top of page
รูปภาพนักเขียนเจ้าของไงจะใครล่ะ

TIRZEPATIDE สรุปแบบแจ่มๆ

ทั้งหมดหมายความว่าอะไร แบบไม่งง และวิธีการใช้จริง

ขอสรุปแบบรวบรัดขึ้นก่อน

ก็คือว่ามันค่อนข้างจะไสยศาสตร์พอสมควร สรุปแบบง่ายๆ คือ

  • ทำให้ไม่หิว แล้วทำให้เกิดการสลายไขมันมาใช้เป็นพลังงาน และสร้างน้ำตาลจากไขมันได้ โดยทำให้อยู่เหนือ Calorie IN, Calorie OUT ไปเลย

  • เมื่อประกอบกันการออกกำลังกาย แล้วกลที่ช่วยให้ GLUT4 เปิด ก็หมายความว่าสามารถย้ายน้ำตาลหรือกรดไขมันที่ได้จากการสลายไขมัน ให้วิ่งเข้ากล้ามได้

  • ถ้าออกกำลังกายหนัก ในวันนั้นๆ จะหิวมากกว่าวันที่ไม่ออก

  • มีจุดอ่อนคือว่า อาจจะคุมหิวจนทำให้กินโปรตีนไม่พอ หรือรู้สึกไม่อยากกิน ทำให้ฟื้นตัวได้ไม่ดี เพราะว่ายานี้ทำให้ไม่ขาดน้ำตาล เพราะสลายไขมันมาทำ แต่ว่าร่างกายก็ต้องการโปรตีน และอาจต้องการสูงขึ้น ดังนั้นกินโปรตีนให้ได้อย่างน้อยเท่าส่วนสูงของตัวเอง ไม่เช่นนั้นอาจะทำให้การลดไขมันหยุดลง หรือฟื้นตัวช้า ครับ

  • อาจจะทำให้มีความรู้สึก เนือยๆ พอสมควร เพราะมันไปส่งผลต่อเรื่อง สัญญาณความอิ่ม

  • ดังนั้นแนะนำที่ 2.5 MG/สัปดาห์ เท่านั้น ผมมองว่าการไปใช้เยอะๆ แบบคลีนิคแนะนำ ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะว่าเราทำโดยร่วมกับการกินไขมันและโปรตีนสูง คาร์บต่ำ ซึ่งมันเสริมกลไกของยาและฮอร์โมนมากๆ ครับ คือมันจะดีมาก

  • ถ้ากินอาหารปกติ 5 หมู่ หลายมื้อ ก็จะไม่ได้ผลดีนะครับ

จากนี้ลงไปเป็นรายละเอียด

โอเค TIRZEPATIDE เนี่ย ช่วงนี้เริ่มดังละ ในกลุ่มการแพทย์กระแสหลัก ว่ามันจะมาแทนปากกาลดน้ำหนักพวก Liraglutide หรือ Semaglutide ซึ่งจริงๆ เนี่ย มันสามารถทดแทนได้อยู่แล้วครับ แล้วได้ผลดีกว่าเยอะมากแน่นอน โดยมันมีอัตราสำเร็จมากกว่า แต่ตอนนี้เนี่ย เราควรมาทำความเข้าใจว่า ต้องใช้ยังไง ถึงจะถูกบริบทในการใช้เพื่อ เพิ่มกล้ามไขมันแบบแท้จริง โดยไม่ต้องใช้โดสเยอะตามที่เขากำหนด


เราต้องทำความเข้าใจตัวยาก่อนครับ

Tirzepatide เป็นยาที่อยู่ในกลุ่มของ GLP-1 และ GIP receptor agonists ซึ่งทำงานโดยการกระตุ้นตัวรับสองประเภทคือ Glucagon-Like Peptide-1 Receptor (GLP-1R) และ Glucose-Dependent Insulinotropic Polypeptide Receptor (GIPR) มีผลต่อระบบการเผาผลาญและการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

อันนี้มันก็หมายความว่า มันทำให้ การ BALANCE พลังงานเนี่ย มันเปลี่ยนไป

คือหมายความว่า "มันจะอยู่เหนือ Calorie in, Calorie out ละ เพราะว่า

มันไปจับกับตัวรับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบพลังงาน 2 ตัว คือ


GLP-1 เป็นฮอร์โมนในกลุ่ม incretin ที่หลั่งจากลำไส้เล็กเพื่อตอบสนองต่อการรับประทานอาหาร

การทำงาน:

  1. เพิ่มการหลั่งอินซูลิน GLP-1 กระตุ้นเซลล์เบตา (β-cells) ในตับอ่อนให้หลั่งอินซูลินมากขึ้น เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง

    ปรับปรุงความไวต่ออินซูลินในเนื้อเยื่อต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อและตับ

  2. ลดการหลั่งกลูคากอน:

    ยับยั้งเซลล์แอลฟา (α-cells) ในตับอ่อนเพื่อลดการหลั่งกลูคากอน

    ลดการผลิตกลูโคสจากตับผ่านกระบวนการ hepatic gluconeogenesis

  3. ชะลอการลำเลียงอาหารจากกระเพาะสู่ลำไส้เล็ก:

    ลดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร

ลดความอยากอาหาร (Appetite Suppression):

GLP-1 ทำงานใน hypothalamus ของสมอง เพื่อลดการกระตุ้นศูนย์ความหิว


GIP เป็น incretin hormone อีกชนิดหนึ่งที่ทำงานเสริมกับ GLP-1

การทำงาน:

  • เพิ่มการหลั่งอินซูลิน:

    GIP กระตุ้นเซลล์เบตาให้หลั่งอินซูลินเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น

    ลดความต้านทานต่ออินซูลิน (Insulin Resistance):

  • ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินใน adipose tissue และ skeletal muscle

  • ส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน:

    GIP กระตุ้นการดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน (lipolysis)

    ลดการสะสมของไขมัน โดยเฉพาะ visceral fat แปลว่าทำให้พุงที่ลดยากลดได้

การทำงานร่วมกับ GLP-1:

การกระตุ้นทั้ง GLP-1 และ GIP pathways พร้อมกันช่วยเสริมฤทธิ์ในการควบคุมระดับน้ำตาลและปรับปรุงเมตาบอลิซึม


และมีส่วนเสริมอีกคือ

  • Lipid Metabolism Pathway

Tirzepatide กระตุ้นการดึงไขมัน (triglycerides) ใน adipose tissue มาใช้เป็นพลังงาน

  • ลดระดับไขมันในเลือด triglycerides ผ่านการปรับปรุงการทำงานของระบบเผาผลาญ

  • Skeletal Muscle Glucose Uptake Pathway

    Tirzepatide กระตุ้นการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่กล้ามเนื้อผ่าน GLUT4 translocation แปลว่าทำให้กล้ามรับน้ำตาลได้ดีขึ้น

  • ช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลินในกล้ามเนื้อ แปลว่าทำให้กล้ามใช้พลังงานในเซลล์ได้ดี จึงเปิดรับน้ำตาล

  • Hepatic Gluconeogenesis Pathway

    ลดการผลิตกลูโคสในตับ โดยยับยั้งเอนไซม์สำคัญ เช่น PEPCK (phosphoenolpyruvate carboxykinase) แปลว่าถ้าไม่กระตุ้น ร่างกายก็คงจะใช้ FFA/Ketones ในสัดส่วนสูงขึ้นครับ ยิ่งลดโอกาสการสร้างไขมันใหม่

  • Appetite and Satiety Pathway

    GLP-1 และ GIP ทำงานในสมอง โดยเฉพาะที่ arcuate nucleus (ARC) ใน hypothalamus

    ลดความอยากอาหาร และกระตุ้นความอิ่ม

ทั้งหมดหมายความว่าอะไร แบบไม่งง และวิธีการใช้จริง

ก็คือว่ามันค่อนข้างจะไสยศาสตร์พอสมควร สรุปแบบง่ายๆ คือ

  • ทำให้ไม่หิว แล้วทำให้เกิดการสลายไขมันมาใช้เป็นพลังงาน และสร้างน้ำตาลจากไขมันได้ โดยทำให้อยู่เหนือ Calorie IN, Calorie OUT ไปเลย

  • เมื่อประกอบกันการออกกำลังกาย แล้วกลที่ช่วยให้ GLUT4 เปิด ก็หมายความว่าสามารถย้ายน้ำตาลหรือกรดไขมันที่ได้จากการสลายไขมัน ให้วิ่งเข้ากล้ามได้

  • ถ้าออกกำลังกายหนัก ในวันนั้นๆ จะหิวมากกว่าวันที่ไม่ออก

  • มีจุดอ่อนคือว่า อาจจะคุมหิวจนทำให้กินโปรตีนไม่พอ หรือรู้สึกไม่อยากกิน ทำให้ฟื้นตัวได้ไม่ดี เพราะว่ายานี้ทำให้ไม่ขาดน้ำตาล เพราะสลายไขมันมาทำ แต่ว่าร่างกายก็ต้องการโปรตีน และอาจต้องการสูงขึ้น ดังนั้นกินโปรตีนให้ได้อย่างน้อยเท่าส่วนสูงของตัวเอง ไม่เช่นนั้นอาจะทำให้การลดไขมันหยุดลงครับ

  • อาจจะทำให้มีความรู้สึก เนือยๆ พอสมควร เพราะมันไปส่งผลต่อเรื่อง สัญญาณความอิ่ม

  • ดังนั้นแนะนำที่ 2.5 MG/สัปดาห์ เท่านั้น ผมมองว่าการไปใช้เยอะๆ แบบคลีนิคแนะนำ ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะว่าเราทำโดยร่วมกับการกินไขมันและโปรตีนสูง คาร์บต่ำ ซึ่งมันเสริมกลไกของยาและฮอร์โมนมากๆ ครับ คือมันจะดีมาก

  • ถ้ากินอาหารปกติ 5 หมู่ หลายมื้อ ก็จะไม่ได้ผลดีนะครับ


ก็ประมาณนี้ครับ ตอนนี้คิดว่าตัวนี้ ประโยชน์รอบด้านพอสมควร

และนักกีฬาที่ใช้ ก็คัทได้ง่ายมาก แล้วไม่ต้องคาร์ดิโอ ไม่ต้องนับแคลอรี่ ดูแค่

  1. กินโปรตีนให้พอ ผมแนะนำ 3 เท่า ของน้ำหนักตัว ถ้ารู้สึก สด เฟรช ก็ไม่ต้องคิดอะไร ทำต่อไป

  2. ถ้าอึแข็ง ให้เพิ่มไขมัน

แค่นี้เอง ทำไปเรื่อยๆเพราะยังไงก็ไม่ขาดน้ำตาลอยู่แล้ว




ดู 4,668 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Opmerkingen


bottom of page