SARMs อัพเดทปี 2025
- เจ้าของไงจะใครล่ะ
- 19 ก.ย.
- ยาว 5 นาที
📍 ที่มา – SARM คืออะไร
เริ่มจาก lab พัฒนาให้เป็นยารักษาโรคกล้ามฝ่อ, กระดูกพรุน → เป้าหมายคือ “เลือกเปิด AR แค่ตรงที่อยากให้โต”
โครงสร้างเป็น non-steroidal molecule → ไม่ใช่ฮอร์โมนตรงๆ แต่ยังจับ receptor ได้
จุดเด่น = “Selective” → มันเลือก tissue ที่จะ activate gene ได้บางส่วน เช่น กล้าม, กระดูก แต่เลี่ยงต่อมลูกหมากหรือหนังหัว
⚙️ กลไกการจับ Receptor
ทุกอย่างเริ่มที่ Androgen Receptor (AR)
AR = สวิตช์หลักของร่างกายสำหรับ “สร้างโปรตีน”
Testosterone/Tren/Dbol = เปิดสวิตช์เต็ม → เปิดทั้งที่อยากได้ (กล้าม) + ที่ไม่อยากได้ (ผิวมัน, หัวล้าน)
SARM = เปิดสวิตช์บางชุด (selective gene transcription) → เน้นโปรตีนสังเคราะห์, กระดูกแน่น, เพิ่ม insulin sensitivity บางส่วน
🧩 ทำไมถึงกดฮอร์โมน
Feedback system ของร่างกาย → ถ้า AR ถูกกระตุ้นมาก สมองจะคิดว่า “Test เยอะแล้ว”
สมอง (Hypothalamus) → ลด GnRH → Pituitary ลด LH/FSH → อัณฑะหยุดผลิต Test
ผล = Suppression → ฮอร์โมนตัวเองตก แม้ SARMs ไม่ใช่ฮอร์โมนตรงๆ ก็ตาม
ระดับการกดขึ้นกับตัว:
Ostarine (เบาๆ) → กดน้อย
RAD140 (แรงมาก) → กดหนัก
S23 (โคตรแรง) → บาง paper บอกใช้แทนยาคุมชายได้
🧩 “กดฮอร์โมน” ≠ “ความเงี่ยนหาย” เสมอไป
SARM → กดระบบ LH/FSH ทำให้ Testosterone ในเลือดลด จริง
แต่ “เซ็กซ์ไดรฟ์” ไม่ได้ขึ้นกับ Test serum อย่างเดียว → มันขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น
Dopamine, Prolactin
Estradiol (E2) ในระดับพอดี
การกระตุ้น AR ในสมองโดยตรง
⚡ ต่างจาก Oral AAS (Anavar, Winstrol)
Oral AAS (เช่น Anavar) → กดฮอร์โมนเช่นกัน แต่มีผลเพิ่ม SHBG + กด E2 จนต่ำเกินไป
Free Test หาย → ฟีล drive หาย
ไม่มี E2 → ข้อตึง, mood ดรอป, เซ็กซ์ไม่มา
เลยคนใช้ Anavar เดี่ยวๆ บ่อยครั้งบ่นว่า “แรงขึ้น แต่ไม่อยากเอา”
SARM → ถึงจะกด LH/FSH แต่ยังมีการกระตุ้น AR ในสมอง อยู่
AR signal ในสมองบางส่วนช่วย maintain sex drive
ไม่มี aromatize → E2 ต่ำลงจริง แต่ไม่ได้ crash เท่ากับเมื่อใช้ AAS ที่เป็น DHT-derivative
เลยบางคนยังคง sex drive ได้ แม้ Test serum จะตก
🎯 แก่นแท้คือ
กดฮอร์โมน = ใช่ → Test ในเลือดตกแน่
เซ็กซ์ไดรฟ์หาย = ไม่เสมอไป → ขึ้นกับว่า AR stimulation + Dopamine/E2 balance ในร่างกายยังอยู่ตรงไหน
พูดง่ายๆ = “ไข่หด แต่ไฟอาจจะยังติด”
🧨 PAPAJOE APPROVED สรุป
SARM → กดระบบภายในจริง แต่ยังเหลือ AR stimulation ในสมอง → sex drive ไม่ดรอปเท่า Anavar/Winstrol หรือลางตัวเพิ่มขึ้น
Anavar → กด Test + ดึง E2 จนต่ำเกินไป → ทำให้ทั้ง drive + ฟีลหาย
สุดท้ายขึ้นกับ สมดุล Free Test + Estradiol + Dopamine → ไม่ใช่แค่ค่าฮอร์โมนในเลือด
💪 ทำไมสร้างกล้ามได้จริง
เพราะ AR → ไปเปิดเส้นทาง mTOR, IGF-1, MyoD = เครื่องจักรสร้างโปรตีน
เมื่อเปิด AR → ร่างกายกัก Nitrogen balance ได้ → โปรตีนที่กินเข้าไปไม่โดนเผา แต่เอามาซ่อมแซมกล้าม
ผลลัพธ์ = กล้ามโตขึ้นจริง แม้ไม่ aromatize เป็น E2 แบบ Test
ข้อสังเกต: เพราะไม่มี E2 → กล้ามจะ lean แห้ง ไม่ฟูเหมือนสเตียรอยด์ แต่บางคนเจอข้อฝืด, sex drive ดรอป
🧨 ผลต่อสุขภาพ (เข้าใจ ไม่ใช่ “ข้อเสีย”)
HDL/LDL
SARMs หลายตัว → กด HDL (ไขมันดี) ลง, เพิ่ม LDL (ไขมันตัวขนส่ง)
ต้องเข้าใจว่า LDL ไม่ได้ “เลว” → มันคือ รถบรรทุกไขมัน → ส่ง cholesterol/hormone ไปทั่วร่าง
ถ้า HDL ต่ำลง = รถลากขยะ (รีไซเคิลไขมัน) น้อยลง → เลยดูไม่ balance เท่า Test
ไม่ใช่ว่า SARMs ทำร้ายหัวใจโดยตรง แต่เปลี่ยนระบบ lipid transport ให้ต่างจาก baseline
ตับ (Liver)
ส่วนใหญ่เป็น oral (กินเข้าไป) → ผ่านตับ (first-pass metabolism)
ค่าตับอาจขยับ แต่ไม่ใช่ว่าพัง → แค่ตับทำงานเพิ่มขึ้น
E2 (Estradiol)
SARMs ไม่ aromatize → ไม่มีน้ำเก็บ, ไม่ gyno
แต่ก็ขาดข้อดีของ E2 เช่น ข้อลื่น, vascularity, mood, libido
🎯 ทำไมบางคนบอก “ไม่แรง” แต่บางคนโต
ขึ้นกับว่า ระบบร่างกายของแต่ละคน baseline อยู่ตรงไหน
ถ้าไขมันเยอะ, โปรตีนกินน้อย, ไม่ออกกำลังจริงจัง → SARMs ดูเหมือน “ไม่ค่อยแรง”
แต่ถ้าโปรตีนสูง, เล่นหนัก, ไขมันต่ำ → SARMs เปิด AR ให้ชัดเจน → กล้ามโตจริง
🧨 สรุปแบบ PAPAJOE APPROVED
SARM = ของที่ออกแบบมาให้เลือกเปิด AR → กล้ามขึ้น lean จริง แต่ไม่ใช่ทางลัดปลอดภัย 100%
การกดฮอร์โมน = เรื่องปกติ เพราะสมองมองว่า AR active แล้ว
HDL/LDL เปลี่ยน = ไม่ใช่ “ข้อเสีย” แต่คือการเปลี่ยนวิธีขนส่งพลังงานในเลือด
E2 หาย = กล้าม lean แต่เสียฟีลลิ่งบางอย่าง (ข้อตึง, sex drive ตก)
ใช้ได้ แต่ต้องเข้าใจระบบ ไม่ใช่หวังว่า “SARMs = ยาเทพ ไม่กด”
Ostarine (GTx-024 / Enobosarm, MK-2866) 10 mg 100 เม็ด 1200 บาท
จับ AR ยังไง / เปิดตรงไหน
เป็น non-steroidal SARM จับ AR แล้วคัดเลือกเปิดยีนฝั่ง กล้าม–กระดูก มากกว่าต่อมลูกหมาก/ผิวหนัง (tissue-selective transcription/coactivator recruitment). PMC+1
สร้างกล้ามแบบไหน
ใช้ในงานกล้ามฝ่อ → lean mass ขึ้น และช่วย functional outcomes ในงานคลินิกระยะต้น/มะเร็ง (ข้อมูลทรานสเลชัน/เฟสต้น). PMC
กดฮอร์โมนแค่ไหน (ภาพรวม)
เป็น SARM ที่ กดได้ เพราะ AR active → feedback HPT axis; หลักฐานตรงมนุษย์ชัดสุดจะมาจากเพื่อนบ้านตระกูล SARM (LGD) ที่โชว์ pattern การกดเหมือนกัน (ดู LGD ด้านล่าง). PMC
โน้ตเสริม (ความปลอดภัย/บริบทปัจจุบัน)
ยังไม่ใช่มาตรฐานการรักษาที่อนุมัติในคนทั่วไป; งานรีวิวปี 2024 สรุปว่ายังไม่มี RCT ที่ confirm ประสิทธิภาพในบางข้อบ่งชี้นอก cachexia. The Lancet
RAD140 (Testolone) 10 mg 60 เม็ด 1650 บาท
จับ AR ยังไง / เปิดตรงไหน
Affinity สูงต่อ AR และ เลือกเนื้อเยื่อ (skeletal muscle, สมอง) มากกว่าต่อมลูกหมากในพรีคลินิก; มีคุณสมบัติ neuroprotective ผ่านสัญญาณ MAPK/ERK ในเซลล์ประสาท/หนู. PMC+2MilliporeSigma+2
สร้างกล้ามแบบไหน
โปรไฟล์ “dry/lean + แรง” จากการเปิด AR แบบ anabolic โดยไม่ aromatize (อ้างอิงจากกลไก & พรีคลินิกคัดเลือกเนื้อเยื่อ). PMC
กดฮอร์โมนแค่ไหน
โดยกลไกถือว่า “กดชัด” (AR activation → ลด GnRH/LH/FSH); เอกสารมนุษย์ตรง-ๆ ยังจำกัด แต่ pattern suppression คาดคล้าย LGD/กลุ่ม SARM อื่นๆ. PMC
ไฮไลต์พิเศษ
จุดขายพรีคลินิก: ปกป้องสมอง ขณะยังคง anabolic action ในกล้าม (จุดต่างจาก AAS บางตัวที่กวน CNS). PMC+1
LGD-4033 (Ligandrol) 10 mg 60 แคปซูล 1350 บาท
จับ AR ยังไง / เปิดตรงไหน
non-steroidal SARM; เข้ากล้าม/กระดูกเป็นหลัก (selective). PMC
สร้างกล้ามแบบไหน (หลักฐานมนุษย์ชัดสุดในกลุ่ม SARM)
RCT ระยะต้นในผู้ชายสุขภาพดี 21 วัน → lean body mass เพิ่มตามโดส, แรงบางทดสอบดีขึ้น; ครึ่งชีวิตยาว พอกินซ้ำเกิดการสะสมแบบเป็นสัดส่วน. PMC+1
กดฮอร์โมนแค่ไหน (หลักฐานตรง)
กด Testosterone/SHBG แบบขึ้นกับโดส; FSH/Free-T ลดชัดที่ 1.0 mg; HDL ลดเล็กน้อยในช่วงสั้น—เป็น pattern lipid transport shift ของ SARM (เข้าใจระบบ ไม่ใช่ “ทำร้ายหัวใจทันที”). UTMB Health Research Expert Profiles
ภาพรวมฟีลกล้าม
“recomp/lean” คล้าย Osta แต่มัก รู้สึกแรงกว่า จากข้อมูลมนุษย์. PMC
S23 10 mg 100 เม็ด 1900 บาท
จับ AR ยังไง / เปิดตรงไหน
SARM รุ่นแรง anabolic/androgenic ratio สูง ในหนู: lean mass↑, bone↑, fat↓ แบบขึ้นกับโดส. PMC
สร้างกล้ามแบบไหน
โปรไฟล์ “คม แข็ง แห้ง” (dry/lean) ตามพรีคลินิก—แรงกว่ากลุ่ม Osta/LGD. PMC
กดฮอร์โมนแค่ไหน
กด HPG axis หนัก; มีข้อมูลพรีคลินิกใช้ร่วม E2 ทำ male contraception แบบกลับคืนได้ → สะท้อนว่ากด LH/FSH/สเปิร์ม เด่นมาก. ResearchGate
AC-262536 10 mg 60 เม็ด 2430 บาท
จับ AR ยังไง / เปิดตรงไหน
เป็น AR partial agonist: กระตุ้น AR ฝั่งกล้าม/กระดูก แต่ partial เมื่อเทียบเทสโต → เลยได้ anabolic พร้อมลดผล androgenic peripheral บางส่วน. ScienceDirect+1
สร้างกล้ามแบบไหน
โปรไฟล์ “เบา-กลาง/lean-recomp” จาก partial agonism (คาดว่าไม่พุ่งเท่า RAD/S23). ScienceDirect
กดฮอร์โมนแค่ไหน
โดยทฤษฎี กดน้อยกว่า SARM ตัวแรง เพราะเป็น partial agonist (สัญญาณรวมต่ำกว่า) แต่ยังคง suppression ตามกลไก feedback. ScienceDirect
สรุป (โคตรสั้น)
Osta: เบสิค lean/recomp, suppression พอมี, โปรไฟล์สะอาดกว่า—เหมาะเริ่มศึกษา. PMC
RAD140: แรง/คม, มี data neuroprotective, suppression ควรถือว่าแรง. PMC
LGD-4033: มีมนุษย์ชัดสุด—21 วันก็เห็น lean mass↑+TT/FSH/HDL↓ ตามโดส. PMC+1
S23: สายโหด—คุมกำเนิดเพศชายในหนูแบบ reversible → ตีความว่า กดหนัก แต่กล้าม “แห้งคม”. PMC+1
AC-262536: partial agonist—โทนเบากว่า, คาดว่ากดน้อยกว่าตัวแรง, เหมาะสาย recomp. ScienceDirect
หมายเหตุ: ทุกตัว ไม่ aromatize → กล้ามจะ lean แห้ง แต่ E2 ต่ำไปอาจทำให้ข้อฝืด/ฟีลตก ต้องเข้าใจระบบ ไม่ใช่ดี/เลวขาวดำ
แนวทางการใช้แบบทำได้จริง
🔄 หลักการใหญ่ก่อน (System Thinking)
SARMs = AR agonist → กล้ามขึ้นจริง แต่กด HPT axis แน่นอน
การเล่น เป็นรอบ (cycle) จำเป็น → ถ้า on ยาวแบบไม่วางระบบ สุดท้าย Test ตก, drive หาย, กล้ามไม่ฟู
การสลับ (bridge/PCT) → คือ เปิดสัญญาณสมอง-ไข่ (GnRH → LH/FSH) ให้กลับมา
ตัวเลือก bridge มีหลายแบบ: Kisspeptin, SERM (Tamox/Torem) หรือ ใส่ Test base
🧩 ตัวเลือก PCT / Bridge
1. Kisspeptin-10
กลไก: กระตุ้น GnRH โดยตรงที่ hypothalamus → LH/FSH ขึ้นเร็ว → อัณฑะปล่อย Test กลับมา
ข้อดี: ฟื้น sex drive ไว, ทำงานตรงประเด็น, side effect น้อย
ข้อเสีย: ต้องใช้ injectable, แพงกว่านิดหน่อย
2. Tamoxifen / Toremifene (SERMs)
กลไก: บล็อก ER ที่ hypothalamus/pituitary → สมองเข้าใจว่า “E2 ต่ำ” → กระตุ้น LH/FSH
Tamox = เบสิค ใช้กันบ่อย
Torem = โปรไฟล์ดีกว่า, lipid profile ดีขึ้นกว่าด้วย
ข้อเสีย: ฟื้นช้ากว่า Kisspeptin, อาจมี side effect เช่น clot/liver impact ถ้าใช้ยาว
3. Testosterone Base
กลไก: เอา Test จริงๆ มาลง → ไม่ปล่อยให้ร่างกาย Test ตก
ใช้ได้ 2 แบบ:
On-cycle add-on: ใส่ Test ต่ำๆ คู่ SARM (เช่น 100–200 mg/wk) → ป้องกัน suppression → sex drive ไม่ตก
Off-cycle bridge: บางคนเลือกใส่ Test ต่อเนื่องยาว (TRT concept) แล้วไม่ PCT เลย
📅 ตัวอย่างรอบการใช้ (12 สัปดาห์)
Phase 1: On (SARM)
เลือก SARM ตามเป้าหมาย (เช่น RAD140 หรือ LGD4033) → 8–12 สัปดาห์
ถ้าอยากไม่ให้ drive หาย → ใส่ Test base เล็กน้อย (100–200 mg/wk)
Phase 2: PCT / Bridge (4 สัปดาห์)
ตัวเลือก A: Kisspeptin-10 (500 mcg 2–3x/week)
ตัวเลือก B: Tamoxifen 20 mg/day หรือ Toremifene 60 mg/day
เสริม Zinc, Vit D, fatty meat → support hormone recovery
Phase 3: Rest / Reset (4–6 สัปดาห์)
ไม่ใส่อะไรเพิ่ม → ให้ร่างกาย balance กลับมา
เช็ค bloodwork → TT, LH/FSH, E2, Lipid
🎯 แนวทางเลือกตามเป้าหมาย
มือใหม่ลอง SARM เดี่ยวๆ → เล่น 8 wks, แล้ว PCT ด้วย Tamox หรือ Kisspeptin
อยากกล้ามไม่แฟบ + sex drive ไม่ตก → เล่นคู่ Test base ตั้งแต่ต้น (ไม่ต้อง PCT สาย TRT)
สายโหด RAD140/S23 → suppression หนัก → PCT ด้วย Kisspeptin + SERM คู่กัน จะรีบูสต์ LH/FSH ไว
สายงบน้อย → Tamox พอได้ แต่ต้องเฝ้าระวัง lipid/liver
🧨 PAPAJOE APPROVED สรุป
SARM = ได้ lean mass จริง แต่ suppression เลี่ยงไม่ได้
Kisspeptin = รีสตาร์ทไว, ฟีล drive กลับมาเร็ว
Tamox/Torem = ของเบสิค, ใช้ได้, เน้นฟื้นระบบสมอง-ไข่
Test base = ตัดปัญหาทิ้ง, ไม่ต้องกังวล drive แต่ถือว่าเข้าสาย “on ยาว”
จะเลือกแบบไหน → ขึ้นกับ mindset: “อยาก reset กลับธรรมชาติ” หรือ “จะอยู่ on ต่อเนื่อง”
ความคิดเห็น