top of page

ใช้ HGH แบบขั้นเทพ หน้าไม่บวม เท้าไม่โต กล้ามขึ้นแน่นอน

  • รูปภาพนักเขียน: เจ้าของไงจะใครล่ะ
    เจ้าของไงจะใครล่ะ
  • 4 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 2 นาที

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า HGH ไม่ได้มีผลสร้างกล้ามโดยตรง แต่มีผลหลักๆ มาจากการกระตุ้นการสร้าง IGF1 ที่ตับ แล้วส่งผ่านไปกล้าม แต่จริงๆ แล้ว การยกเวท จะกระตุ้น mIGF ที่เกิดที่กล้าม และการฉีด HGH เมื่อ HGH ไปจับกับตัวรับในกล้าม ก็สามารถกระตุ้น mIGF เฉพาะจุดได้มากขึ้น


ทีนี้ การที่ IGF มันลอยออกมาจากตับ เราต้องเข้าใจว่า

🔹 1. HGH → ตับ → สร้าง IGF-1 + IGFBP-3

📍 ที่ตับ:

  • GH → จับ GH Receptor → กระตุ้นการสร้าง

    • IGF-1 (Insulin-like Growth Factor 1)

    • IGFBP-3 (IGF Binding Protein 3) = พาหนะพา IGF-1 ลอยในเลือด

🔬 ความสำคัญของ IGFBP-3:

  • พา IGF-1 ลอยได้ นาน (~16–20 ชม.)

  • พาไปจับเป้าหมายเฉพาะ (เช่น กล้าม, กระดูก, เส้นเอ็น)

  • กัน IGF-1 จับมั่ว เช่น ไปจับผิว → หน้าใหญ่, สิว, เท้าบวม

  • IGFBP-3 ยังจับกับ ALS (Acid Labile Subunit) → สร้าง complex ใหญ่ ลอยเสถียร

ถ้าคนที่เคยอ่าน GH15 BIBLE อะไรนั่น จะเจอว่าเขาเชื่อว่าสมัยนึงมันมี IGF ในตำนาน ซึ่งใส่ IGF BP3 มาด้วย แล้วกล้ามขึ้นง่าย ซึ่งจริงๆ IGF BP3 คือถ่วงเวลา ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อให้มันไปทำงานในจุกที่ควรทำ

🔹 2. ❗ ถ้าอินซูลินสูง → IGFBP-3 ถูก “ตัด” โดย Protease Enzyme

  • อินซูลินกระตุ้นเอนไซม์กลุ่ม Protease เช่น PAPP-A→ ตัด IGFBP-3 → ทำให้ IGF-1 หลุดลอยอิสระ (free IGF-1)→ ไปจับมั่วตามเนื้อเยื่อไม่จำเป็น

    • ผิวหน้า → สิว, หน้าเปลี่ยน

    • กระดูก, ข้อต่อ, เท้า → บวม, ปวด

    • อวัยวะภายใน → อาจขยายโดยไม่จำเป็น

🧠 IGF-1 ที่ดีต้องถูกคุมอยู่ใน Complex กับ IGFBP-3เพื่อให้มันจับเฉพาะ “กล้าม + เส้นเอ็น”

อันนี้เป็นความเข้าใจผิดมาก เพราะจะพบว่าการปัก HGH ทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้น จึงต้องใช้อินซูลิน กดน้ำตาลในเลือดลง หรือ กินข้าว ให้กระตุ้นขึ้นไปอีก ให้น้ำตาลกดลง หรือ ปักก่อนกินอาหารวันละหลายรอบ อันนี้ไม่ถูกต้อง เพราะว่า

  • น้ำตาลนั้นมาจากการกระตุ้นการผลิตน้ำตาลใหม่จาก lactate และ ไขมันที่สลายได้

  • กล้ามสามารถดูดน้ำตาลนั้นได้ แค่ไปยกเวท หรือ ถ้าอยากให้กล้ามอกรับ ก็แค่วิดพื้น เพราะเมื่อมีการออกแรงกล้าม กล้ามจุดนั้น จะรับน้ำตาลเอง แล้วเลือดจะวิ่งพาน้ำตาลไปให้เอง

  • การฉีด insulin คือการตัดเอนไซม์ถ่วงเวลา ทำให้ IGF ลงไม่ถูกจุด ซึ่งทำให้พบว่า บางคนใช้แล้วสิวขึ้น เท้าบวม มือบวม หรือเมื่อใช้มากๆ นานๆ พบว่า หน้าเปลี่ยน เบ้าตาลึก เพราะมันไปขยายกระดูกผิดที่

  • การที่ ปัก HGH ก่อนกินข้าว ไม่ถูกต้อง เพราะว่า ปักแล้วสลายไขมัน ไปแดกใหม่ ร่างกายสั่งหลั่ง insulin ไอที่สลายมา ก็รวบรวมกลับไปสิ

  • การปัก HGH มองเป็นการสร้างพลังงานก็ได้ เพราะมันสลายไขมัน ดังนั้น ก็ปัก แล้วไปทำกิจกรรมเอา

🧬 ความเกี่ยวข้องของ HGH กับ T4 → T3 Conversion

GH เพิ่มการเปลี่ยน T4 → T3

โดยกระตุ้น 5’-deiodinase (ไธรอยด์เอนไซม์ในตับ)

T3 = ตัวเร่งการเผาผลาญ + สร้างกล้าม

ถ้าไม่มี T3 → แม้มี GH และ IGF-1 ก็ “เผาไม่สุด สร้างไม่ขึ้น”

❗ ถ้าใช้ GH แต่ T3 ต่ำ

จะเกิดภาวะ “บวม ชื้น เหนื่อย” = Hypothyroid effect

ดังนั้น คนที่ใช้ HGH ให้กิน T4 เสริม เพราะมันจะไปทำให้การเปลี่ยน T4 เป็น T3 ไม่ขาดวัตถุดิบ แล้วทำให้ไขมันลงได้ง่าย แล้วแก้ปัญหาการชานิ้ว มือชา ได้มากพอสมควร เพราะเวลา T3 ไม่พอเนี่ย จะทำให้การใช้พลังงานกับการสื่อประสาทมันขาดไป

สรุปแบบ PAPAJOE APPROVED

  • การสร้าง IGF-1 ไม่ใช่จุดจบ → ต้อง ควบคุมการลอย ด้วย IGFBP-3

  • อินซูลินสูง = ตัด IGFBP ทิ้ง = IGF ลอยมั่ว → บวม, หน้าใหญ่, เท้าระเบิด

  • GH ที่ฉีดอย่างชาญฉลาด + เวทหนัก → สร้างกล้ามสะอาด, เผาไขมันจาก ATP ที่ได้จาก FFA

  • ต้องมี T3 เพียงพอ → ไมโตคอนเดรียถึงจะเอา FFA ไปปั่นพลังงาน → กล้ามถึงจะใหญ่ “แน่น”

  • เราเลยเห็นว่า นักกล้ามเกาหลีรุ่นใหม่ๆ หน้ายังเล็ก แต่หุ่นโหด เพราะมีวิธีการใช้ที่เข้าใจมากขึ้น แล้วมีการใช้ peptide อื่นเสริมมากขึ้น ไม่ใช่แค่สักแต่ HGH บวกอินซูลิน

ถ้าทำตามนี้ การใช้ HGH จะให้ผลที่คุ้มและดีมากๆ แน่นอน สรุปง่ายๆ ปักตอนท้องว่าง 6 IU ก่อนซ้อม 2 ชั่วโมง ซ้อมไปได้ 20 นาที สามารถเริ่มกินน้ำตาล เกลือแร่ ตามได้เลย เพราะตัวรับน้ำตาลจะลอยมารับแล้วครับ PUMP สัสๆ สะใจแน่นอน เพราะระดับในเลือดจะ PEAK พอดีครับ กระตุ้นการสร้าง mIGF ได้สูงที่สุด โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องไปผิดที่



Kommentare


bottom of page