ก่อนอื่นเลย ให้ทิ้งความเชื่อเดิมไปให้หมด แล้วคิดด้วย "ตรรกกะเหตุผล"
อาหารหลัก แยกได้ 3 ประเภท คาร์บ โปรตีน ไขมัน เริ่มเลย
คาร์โบไฮเดรต = น้ำตาล ไม่มีไม่ใช่น้ำตาล
คาร์บเชิงเดี่ยว เชิงซ้อน ไม่มีจริง สิ่งที่มีจริงคือ Glycemic Index ค่านี้จะบอกว่า อาหารตัวนั้น ส่งผลต่อระดับน้ำตาลเร็วมากขนาดไหน โดย GLUCOSE = 100
ข้าวขาวที่คนเข้าใจว่าดีมากๆ คือ 70
มันหวาน อาหารโปร ดีโคตรๆ คือ 62
แต่ช้าก่อน ผลไม้หวานๆ ต่ำกว่า 70 หมดเลย ไม่ว่าจะเป็น มะม่วงสุก ลิ้นจี่ ลำไย
ผลไม้บางตัว เช่น ฝรั่ง ค่า GI แค่ 12 หมายความว่าเป็น คาร์บในอุดมคติ สำหรับคนที่ต้องการคุมระดับอินซูลิน ซึ่งทุกคนควรจะคุม
แล้วข้าว ก็ไม่ต่างจากขนมปัง คือมันไม่มีสารอาหาร มันมีแค่พลังงาน คุณไม่สามารถกินข้าวเปล่าแล้วมีชีวิตได้ แต่คนที่กินผลไม้อย่างเดียว มีชีวิตอยู่ได้ เพราะในผลไม้ มีวิตามิน มี Micronutrients
ดังนั้น WHITE RICE หรือ ข้าว ขนมปัง ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ในโปรแกรมอาหารใดๆ ก็ตาม เป็นเรื่องหลอกลวง Guideline เรื่องอาหาร ถูกเขียนมาเพื่อ "โปรโมทอุตสาหกรรมการเกษตรและเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนมีอาหารกิน ไม่ได้เขียนให้ทุกคนกินแล้วมีสุขภาพดี" ข้าว แป้งสาลี มันฝรั่ง คือ STARCH อาหารที่เป็น STARCH เหมือนกันคือ เก็บได้นาน ใช้เวลาขาดแคลน ไม่เน่าเสียง่าย
แต่ไทยเนี่ย เป็นเมืองผลไม้ ผลไม้ถูก คุณสามารถกินผลไม้ได้เต็มที่ โดยไม่มีความจำเป็นต้องกินข้าว
คิดดู ประเทศอื่นที่เขาไม่มีผลไม้กินหรือผลไม้เขาไม่อร่อย โคตรอยากกินผลไม้ไทย
โปรตีน = Amino Acids
เนื้อสัตว์ = Amino Acids ครบๆ + วิตามิน ที่ดูดซึมได้สูง
โปรตีนจากนม เวย์ ไข่ = Amino Acids ครบๆ + วิตามิน เยอะ
โปรตีนจากพืช = Amino Acids แบบครบบ้างไม่ครบบ้าง
เลือกได้ก็คือกินโปรตีนจากสัตว์ จากไข่ เพราะมันครบ ดูดซึมได้ง่าย ไม่ผ่านการแแปรรูป
กินแค่เพียงพอ ตามชอบ ไม่ใช่ว่าต้องกินไก่เป็นกิโล AMINO ACID ทั้งหมด จะถูกร่างกายไปเก็บไว้ แล้วร่างกายถึงจะสร้าง "โปรตีน" ที่มีรูปแบบเยอะมาก จาก AMINO ACID ในสต็อค ซึ่งการสร้าง ถ้าให้เยอะขึ้น ก็แน่นอน ออกกำลังกาย ใช้ฮอร์โมน ไม่ใช่ว่ากินโปรตีนเยอะอย่างเดียวจะกล้ามใหญ่
ไขมัน = ไขมันจากสัตว์ ดีที่สุด จากพืช ออกห่างๆ
มีการทดลองที่ไม่ถูกเปิดเผยในตอนแรก ชื่อว่า MINNESOTA DIET EXPERIMENT เขาเอาคน 7000 กว่าคน มาอยู่รวมกัน คุมอาหารทุกมื้อเลยเว้ย หลายปี ผลสรุปออกมาว่า กลุ่มคนที่กินไขมันพืช ค่า LDL ต่ำกว่า แต่ตายเยอะกว่ากลุ่มกินจากไขมันสัตว์ที่ค่า LDL สูงกว่า
ถ้าลองคิดดีๆ คนรุ่น ปู่ รุ่นแม่ ก็กินมันหมู น้ำมันมะพร้าว อาหารไม่แปรรูป แล้วเขาก็แข็งแรง คนมาป่วยเยอะในยุคของ SEED OILS คือยุค "น้ำมันพืช"
การทดลองนี้ หลายสิบปีแล้ว แต่ข้อมูลไม่เปิด คาดว่าเกิดจากผลการทดลอง มันตรงข้ามกับที่คนให้ทุนต้องการ แต่มันนี้มันเปิดออกมาละ เสิชดูได้ MINNESOTA DIET EXPERIMENT
แล้วน้ำมันพืชเวลาใช้กับความร้อน มันก็ OXIDIZED เป็นสารพิษไง
ผักดิบ โดยเฉพาะสีเขียว = ไม่ดีอย่างที่คิด แต่กินเอาอร่อยได้
ผักดิบเนี่ย จะมีสารชื่อว่า OXALATE เวลามันเข้าไปในตัว คือสารพิษตัวนึงที่ขัดขวางการดูดซึมอาหาร แล้วสามารถจับกับ CALCIUM เกิดเป็น CALCIUM OXALATE ซึ่งอุดตันเป็นนิ่วได้ ผักที่มีเยอะมาก คือผักที่กินดิบไม่ได้ เช่น ผักโขม การปรุงด้วยความร้อน จะลดสารตัวนี้ลงได้กว่า 50% ดังนั้น กินผักสุก ผักดิบที่ดี คือผักที่กินกับเนื้อย่าง อันนี้ยอมได้ ส่วน "สลัดเขียวๆ จานใหญ่คืออาหารขยะ"
พอจับมารวมกัน อาหารที่ดีคือโคตรอร่อย
ผลไม้ กินเท่าไหร่ก็ได้ เพราะผลไม้มีน้ำเยอะ เวลากินจริง ผลไม้ 100 กรัม พลังงานต่ำกว่ากินข้าวมาก กินยังไงก็ไม่อ้วน กระทบระดับฮอร์โมนก็น้อย
เนื้อสัตว์ กินได้เท่าที่อยากกิน กินติดมันได้หมด ไก่ย่าง สเต็ก PICANHA ฉ่ำๆ ปลาอบ หม่ำเนื้อย่าง สเต็กหมู หมูกรอบแบบอบ ทุกอย่างได้หมด แต่เราจะไม่ใส่น้ำมันพืชลงไป
นมหมัก โยเกิร์ต ก็กินเท่าไหร่ก็ได้ เต็มที่ ไม่ต้องกินแบบไขมัน 0% ไขมัน 0% คือของห่วย มันเอาของแพงออก ใส่น้ำตาลถูกๆ ลงไปแทน
เราไม่จำเป็นต้องงมงายกินผักจนท้องอืด แล้วเชื่อว่าจะสุขภาพดี
ข้าว ปกติคนชอบก็ไม่เยอะ แต่เป็นความเชื่อ ว่าข้าวคืออาหารหลัก จริงๆ ไม่ใช่ ข้าว คือ STARCH คืออาหารเวลาขาดแคลน เหมือนที่เวลาเกิดสงคราม ต้องบริจาคแป้งสาลีไง เพราะมันพลังงานสูง กินประทังชีวิตได้ แต่ถ้ายืดเยื้อมากๆ เป็นไงครับ ก็ขาดสารอาหาร แต่ไม่ตาย
ยกตัวอย่าง อาหารที่ผมกินเอง ใน 1 วัน
ไข่ 5 ฟอง ลวก
สเต็ก PICANHA มันๆ 2-3 ขีด มะเขือเทศกำนึง
ไก่ย่างหลายๆ ไม้ + ตับไก่ + สัปปะรดถุง
สเต็กมันๆ อีกรอบ + มะม่วงซื้อมาจากตลาด
ส่วนวันไหนอยากกินมาม่า ผมก็กิน วันไหนอยากกินเนื้อตุ๊น ผมก็ทำ เต็มที่
คือเรากินของที่ชอบได้เต็มที่ ที่งบไหว อันไหนไม่ชอบไม่ต้องกิน ไม่มีความทรมานว่าต้องกินแต่ข้าวจืดๆ กินผลไม้ไม่ได้ ปรุงไม่ได้
ก็ตามนี้นะครับ ลองทำดู
พอเข้าใจตามนี้ ไปไหนก็ไม่ต้องกลัว หาของกินง่ายกว่าเดิมอีก
ถ้าคนไม่รู้ทำไง ต้องพกข้าว พกไก่
นี่เดินไป ไก่ย่าง ตับย่าง ผลไม้ถุงนึง น้ำอ้อยขวด สารอาหารรวมดีกว่าพกข้าว พกไก่ พกวิตามิน น้ำอ้อยหวานเจี๊ยบค่า GI 65 ต่ำกว่าข้าวขาวอีก
ก็ตามนี้ครับ ลองทำดู
บทความที่ควรอ่านประกอบ "Carbohydrate" แบบง่ายๆ (siammuscle.org)
Comments