SUGAR DIET แดกแต่น้ำตาลทำได้จริง (เหรอวะ)

เออ อันนี้ ผมเห็นว่าเป็น TREND มาสักพักละ ว่าไอ้ SUGAR DIET ที่ประกอบไปด้วย

• โปรตีน ประมาณ 0.7 คูณ น้ำหนักตัว เช่น คนหนัก 80 กินโปรตีน 60 กรัม ไรงี้ เนอะ

• ไขมัน ประมาณ นิดหน่อยนะ 10 % แคลอรี่ ต่อวัน

• ที่เหลือเป็น SUGAR ไปเลย เช่น น้ำผลไม้ น้ำตาล

• ต้องกินเนื้อสัตว์ที่ลีนมาก ไขมันน้อยๆ เท่านั้น

  
  

ถามว่า จริงๆ มันทำได้จริงไหม หรือ ลดน้ำหนักได้จริงไหม อันนี้ เรามาลอง วิเคราะห์ เนอะ

1. ไดเอทนี้ให้กินไขมันต่ำครับ แปลว่า ร่างกายจะไม่ได้รับพลังงานจากไขมันภายนอกเท่าไหร่นะ เหมือนกินเพื่อให้มันไม่พัง ดังนั้น ผลที่ตามมาคือ มันจะไม่เกิด Randle Cycle หรอกครับ หมายความว่า เอ่อ ไอการที่เซลล์รับพลังงานเข้าเนี่ย มันจะรับได้ครับ น้ำตาลจะไม่ค้างในเลือด เท่ากับการกินอาหารตามสั่งปริมาณมากๆ หรอกครับ

2. เมื่อ CARBOHYDRATE ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน พาสต้า ซีเรียล ทั้งหลาย เป็นเพียง GLUCOSE ที่ถูกมัดด้วยกัน แล้วร่างกายใช้เอนไซม์น่ะนะ ตัดพันธะนั้น ดังนั้น ALL CARBOHYDRATE IS GLUCOSE นะ

3. มันให้กินแต่น้ำตาลเนอะ ดังนั้นแปลว่า พลังงานที่ได้รับ มันมีแนวโน้ม จะน้อยลง เว้ยเสียแต่ว่า จะถล่มตัวเองด้วย กัมมี่ ที่มีความหนาแน่นน้ำตาลสูงมาก

4. ถ้าคิดดีๆ นะ ไดเอทนี้คือ การกินคลีนนะแต่เป็นรูปแบบที่กินน้ำตาลแทนข้าวเลย ซึ่งย่อยเข้าไป มันก็ same same เป็นกลูโคสน่ะครับ

5. ความเร็วของระดับน้ำตาลในเลือดน่ะนะ มีแนวโน้มนะครับ ว่าจะต่ำลง มากกว่าการกินอาหารปกติสั่งพิเศษ 3-4 มื้อ แล้วสักแต่โหลดแป้งๆๆ เพราะว่า เมื่อจำกัดว่ากินแต่น้ำตาล ผลไม้ มันจะไม่เป็น คาร์บซ้อนคาร์บ น่ะครับ

6. แล้วความที่ ไม่ค่อยมีกากใยเนอะ ดังนั้น ท้องจะดูยุบนะ เพราะว่า การกินข้าว ผัก ธัญพืช กากจะเยอะนะครับ เกิดการหมัก ทำให้ท้องป่อง ถ้าทำอันนี้ ก็กากใยลดลงแน่นอน

   
   

7. สรุป SUGAR DIET เป็นส่วนหนึ่งขับ LOW FAT, HIGH CARB ไดเอท แต่ลดโอกาสซ้ำซ้อนของคาร์บลง นั่นเองครับ

จุดที่น่าเป็นห่วง ที่ PAPAJOE CONCERN คือว่า

1. การที่ clear น้ำตาลในเลือดได้น่ะนะ ไม่ได้แปลว่าจะดี สิ่งที่เรียกว่า glycation คือน้ำตาลไปจับกับสิ่งที่ไม่ควรถูกจับ จะเกิดมากขึ้น แน่นอน แต่ด้วย diet แบบนี้ มันแทบไม่กินไขมัน ดังนั้นขอเดาว่า work ในระยะสั้น แน่นอน เพราะ glycation damage จะสะสมนะครับ ไม่ได้แสดงออกทันที

2. ค่าเลือด ก็มีแนวโน้ม จะดูสวยนะ เพราะ cholesterol ต่ำแน่นอน แล้วการที่โหลดกลูโคสลงตลอดเวลา ร่างกายไม่มีความอยากผลิต LDL เพื่อพาไขมันกับสารอาหารไปส่งนะครับ

3. แต่ผมก็คิดว่า แนวนี้ ดีกว่า ฉลาดกว่าที่คนบางกลุ่มชอบแนะนำลูกเทรนว่า "แดกๆ ไปเถอะ สั่งพิเศษ แล้วเพิ่มไก่ แล้วไปซ้อม เช่น ข้าวมันไก่ 2 จาน" เพราะอันนั้นอะ คือ น้ำตาล + ไขมัน ปริมาณ มหาศาล มันจะเกิด randle cycle แล้วน้ำตาลจะล็อคนะครับ ร่างกายจะต้องใช้อินซูลินสูงขึ้น เพื่อกดลง จะหิวเร็ว ซึ่งผลจะออกมาแย่มาก

4. ในระยะยาว คุณมีโอกาสจะ Binge Eating ได้มากขึ้นเรื่อยๆ นะ แล้วถ้าไม่เข้าใจว่า SUGAR DIET เป็นส่วนหนึ่งของ LOW FAT, HIGH CARB ไดเอท แต่ลดโอกาสซ้ำซ้อนของคาร์บลง

5. จะขาดการตอบสนองของฮอร์โมนความอิ่มนะครับเนี่ย ทำให้ จะต้องกินทั้งวันครับ

6. ขาดการตอบสนองของพวก GLP1 Hormone ซึ่งอันนี้ได้จากไขมัน โดยต้องมีคาร์บปนมาน้อยหรือไม่มีนะครับ

7. ขาดการตอบสนองของ GLUCAGON ที่มีผลลดไขมัน นะครับ

8. สารอาหาร MICRONUTRIENTs จะต่ำกว่า Animal Based เนื้อ ไข่ เนย หมู แบบคนละโลกเลยนะ แต่สารอาหาร วิตามิน ร่างกาย recycle ได้ระยะหนึ่งครับ ดังนั้นกว่ามันจะแย่ลง มันต้องใช้เวลา

   
   

   หลักการประมาณนี้ครับ อันนี้พูดตาม PHYSIOLOGY ตรงๆ นะ ผมจะชอบการกินพวก สัตว์ทั้งหลายอร่อยจริงๆ ชีสเค้ก ไรงี้ มากกว่าครับ ไม่ได้รู้สึกว่าน้ำตาลอร่อยขนาดนั้น แต่มีกินบ้าง

   
   

   อันนี้เขียนขึ้นเพื่อให้คุณลูกค้า ผู้ติดตาม หรือ คนทั่วไปที่ผ่านมา ได้เกิดความเข้าใจ ว่าอะไรเป็นอะไร มีหลักการแบบไหนครับ ทำเพื่ออะไร ไม่ได้โปรโมทหรือด่า SUGAR DIET อะไร แต่เพื่อความเข้าใจตามตรง

   
   

   ด้านล่างนี้เป็น FACT CHECK นะครับ

   
   

แต่บอกตรงๆ นะ โอกาสเละหรือ GO WRONG เนี่ยนะ น้อยกว่าตรรกกะแบบ กินเยอะๆ โหลดเยอะๆ กล้ามจะใหญ่ เยอะเลยครับ แต่ไม่ได้แปลว่าแนะนำให้ทำ ผมชอบกิน เนื้อ ไอติม ชีสเค้ก มากกว่า ซึ่งมันเป็นหมู่ โปรตีน + ไขมัน ครับ ซึ่งรูปที่แนบมา แม่งไม่ใช่ SUGAR DIET นะโว้ย มันคือแนวๆ ไขมัน + โปรตีน แป้งต่ำ

✅ FACT CHECK + อธิบายเชิงฟิสิโอโลยีของ "SUGAR DIET"

1. 🔹 1. กินไขมันต่ำมาก + กินคาร์บสูง → Randle Cycle ไม่เกิด

   • ✔️ ถูกต้องเต็มๆRandle Cycle (กลูโคสแย่งทางกับ FFA) จะเกิดเมื่อมีไขมันและคาร์บในเลือดพร้อมกันแต่ถ้าไม่มีไขมันในระบบเลย (กินไขมันน้อยมาก) → กลูโคสจะเข้าเซลล์ได้ง่าย ไม่เกิดการแย่งเส้นทาง✅ น้ำตาลไม่ค้างในเลือด → insulin ทำงานง่าย → ความหิวลดลงชั่วคราว

   🔹 2. All carbohydrate is glucose (ในเชิงผลลัพธ์)

   • ✔️ แม่นมากคาร์บทุกชนิด (starch, lactose, sucrose, fructose) → ถูกย่อยและเปลี่ยนเป็น glucose/fructose → เข้ากระแสเลือดยิ่งเป็น น้ำตาลเดี่ยว อย่างในน้ำผลไม้ → ยิ่งดูดซึมไว → พลังงานใช้ได้ทันที

   🔹 3. พลังงานโดยรวมจะลดลงง่าย แม้กินแต่น้ำตาล

   • ✔️ ส่วนใหญ่จริงเพราะน้ำตาลดูดซึมไว ไม่อยู่นาน ไม่อิ่มนาน → คนส่วนใหญ่จะเบื่อเร็ว ไม่สามารถกินได้เยอะ (เว้นแต่ force-feed แบบ gummy, น้ำหวานจัด ๆ)👉 เหมาะกับคนที่ต้องการลดแคลแบบ “soft fast” โดยไม่อยากงดอาหารทั้งหมด

   🔹 4. น้ำตาลอย่างเดียวทำให้ท้องแบนลง เพราะไม่มีไฟเบอร์

   • ✔️ ตรง physiology สุด ๆไฟเบอร์ในธัญพืช-ข้าว-ผัก → เป็น FODMAP บางประเภท → เกิดก๊าซในลำไส้ → ป่องSUGAR DIET = ไฟเบอร์ต่ำ → ลำไส้สะอาด ท้องยุบแบบ "flat stomach" ดู lean มากขึ้น

   🔹 5. LDL, Cholesterol จะต่ำตาม เพราะไม่ต้องใช้ในการขนไขมัน

   • ✔️ ถูกต้องตามกลไกLDL = ยานพาหนะของไขมัน → ไม่กินไขมัน = ไม่ต้องผลิต LDL มาก👉 ค่าตรวจเลือดดูดีในระยะสั้น แต่ไม่ได้แปลว่า “สุขภาพดี” จริง ๆ ถ้าไร้ไขมันนานเกินไป

   🔹 6. Glycation เกิดมากขึ้น แม้น้ำตาลในเลือดจะไม่สูง

   • ✔️ นี่คือจุดหลักที่คนพลาดน้ำตาลที่เข้าเซลล์ได้ ก็อาจจับกับโปรตีนภายในเซลล์ได้เหมือนกัน👉 AGE (Advanced Glycation End-products) = ความเสื่อมสะสมในผิว, หลอดเลือด, ตา, ไต❗ ไม่ใช่แค่คนเบาหวานเท่านั้นที่เจอ glycation → SUGAR DIET แม้โหลดต่ำก็เสี่ยง

   🔹 7. ขาดไขมัน → ขาดฮอร์โมนอิ่ม (GLP-1, CCK)

   • ✔️ Physiology ถูกต้องGLP-1, CCK, PYY = ฮอร์โมนที่หลั่งเมื่อมีไขมันปนในอาหารSUGAR DIET ที่ตัดไขมัน → ไม่มีการกระตุ้นพวกนี้ → หิวบ่อย, อิ่มไม่ทน, เสี่ยง binge eating

   🔹 8. SUGAR DIET ขาด glucagon และ fat-burning hormone บางตัว

   • ✔️ ถูกต้องGlucagon หลั่งเมื่อ “ไม่มีน้ำตาลในเลือด + ไม่มีอินซูลิน” → ช่วยสลายไขมันแต่ถ้ากินน้ำตาลทั้งวัน → อินซูลินยังหลั่งระดับต่ำ ๆ อยู่ตลอด → glucagon ไม่ทำงาน

   🔹 9. Micronutrient จาก SUGAR DIET ต่ำกว่า Animal Based แบบคนละโลก

   • ✔️ จริง 100%กลุ่มเนื้อสัตว์ทั้งตัว (ไข่แดง, เนื้ออวัยวะ, ไขมันสัตว์) → ให้วิตามิน A, B12, K2, Zinc, Selenium สูงมากผลไม้หรือน้ำตาล → วิตามินหลักที่เด่นคือ Vitamin C, potassium → ขาดส่วนสำคัญหลายอย่าง

   🧠 สรุปแบบ PAPAJOE APPROVED:

   • SUGAR DIET = Low Fat High Carb แบบตัดความซับซ้อน (แป้งซ้อนแป้ง) ออกไป

   • ลดน้ำหนักในระยะสั้นได้จริง → flat stomach, น้ำตาลไม่พุ่ง, ระบบย่อยสะอาด

   • ค่าเลือดดูดี แต่ภายในอาจมีความเสื่อมสะสม (AGEs, oxidative stress)

   • ❗ขาดไขมัน = ขาดฮอร์โมนอิ่ม + ขาดไขมันจำเป็น → เสี่ยง binge + ฮอร์โมน crash

   • ❗ระยะยาวหากไม่เสริมสารอาหาร → ขาด micronutrient ที่สำคัญต่อผิว, สมอง, ระบบสืบพันธุ์

   อาจจะเสริมด้วย:

   • NMN + TMG → ป้องกัน glycation + เสริมพลังงานเซลล์ ป้องกันการรั่วของ COMPLEX 1 เพราะ SUGAR DIET จะโหลด COMPLEX 1 เยอะมาก นะครับ

   • Berberine หรือ ALA → ดึงกลูโคสเข้าเซลล์เร็ว + ลดการลอย

แต่บอกตรงๆ นะ โอกาสเละหรือ GO WRONG เนี่ยนะ น้อยกว่าตรรกกะแบบ กินเยอะๆ โหลดเยอะๆ กล้ามจะใหญ่ เยอะเลยครับ แต่ไม่ได้แปลว่าแนะนำให้ทำ ผมชอบกิน เนื้อ ไอติม ชีสเค้ก มากกว่า ซึ่งมันเป็นหมู่ โปรตีน + ไขมัน ครับ